วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

การพิจารณา ค่า SPF และ ค่า PA ก่อนเลือกซื้อครีมกันแดด

การพิจารณา ค่า SPF และ ค่า PA ก่อนเลือกซื้อครีมกันแดด 

สวัสดีค่ะ...หลายท่านคงคุ้นเคยกับสัญลักษณ์แสดงค่า SPF และ PA บนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารกันแดดนะคะ...

ค่า SPF (Sun Protective Factor) คือ ค่าแสดงจำนวนเท่าของเวลาที่ผิวสามารถทนต่อรังสียูวีได้หลังจากทาครีมกันแดดแล้ว ซึ่งโดยปกติผิวของเราจะรับมือกับแสงแดดโดยปราศจากครีมกันแดดได้ประมาณ 20-30 นาที ถ้าครีมกันแดด หรือผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้ว่า SPF50 แสดงว่าเมื่อทาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ผิวจะสามารถอยู่กลางแดดได้ประมาณ 50×30 = 1500 นาที หรือ 25 ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่เกิดรอยไหม้แดง อย่างไรก็ตามค่าดังกล่าวอาจคลาดเคลื่อนได้ ทั้งนี้เนื่องจากครีมกันแดดที่ทาบนผิวอาจลบเลือนไปเมื่อเหงื่อออก หรือโดนน้ำ หรือทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันค่ะ

ตัวอย่าง ค่า SPF และ % การปกป้องรังสี UVB
• ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
• ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
• ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

สำหรับค่า PA (Protection Grade of UVA ) คือ ค่าแสดงประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสี UVA ค่ะ โดยค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ
PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA
PA++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูง
PA+++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA สูงสุด
จากข้อมูลที่กล่าวมา หลายท่านสามารถนำไปพิจารณาเพื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ให้ประสิทธิภาพกันแดดนะคะ.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น