...ภาวะผู้นำ ตอนที่ 13...
...8.การไม่ยอมไต่ระดับขึ้นไป จะจำกัดตัวคุณและคนของคุณไว้...
...ความสามารถในการเป็นผู้นำ เป็นสิ่งตัดสินประสิทธิ์ภาพของบุคคลนั้น...
...ประสิทธิภาพการทำงานให้สำเร็จ และความสามารถของเราในการทำงานร่วมกับผู้อื่น จะถูกกำหนดจากภาวะผู้นำของตัวเราเอง...
...ภาระอย่างหนึ่งในเรื่องภาวะผู้นำคือ เราต้องก้าวเดินไปพร้อมกับผู้คนที่เราดูแลอยู่ เมื่อไหร่ที่เราก้าวไปถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง มันจะกระตุ้นให้คนเหล่านั้นอยากทำตาม...
...แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผู้นำเลิกไต่ระดับภาวะผู้นำ ก็จะเกิดคำถามขึ้น 2 ข้อ นั่นคือ...
...นั่นคือ "คนเหล่านั้นจะพัฒนาขึ้นอีกได้ไหม?" กับ"คนเหล่านั้นจะยอมพัฒนาหรือเปล่า?" บางคนอาจพัฒนาให้ดีขึ้นไม่ได้แล้ว เพราะมาถึงขีดความสามารถสูงสุดของตัวเอง ในขณะที่กลุ่มที่เหลือจะไม่ยอมพัฒนาตัวเอง...
...ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องขีดความสามารถ แต่ อยู่ที่การตัดสินใจและเรื่องทัศนคติ...
...ถ้าผู้คนเต็มใจเลือกที่จะพัฒนาตัวเอง พร้อมทั้งยอมเปลี่ยนทัศนคติ ก็ไม่มีอะไรมาขวางความสำเร็จไว้ได้...
...ถ้าเลือกที่จะไม่พัฒนาตัวเอง ก็ควรทำความคุ้นเคยกับจุดที่คุณอยู่ในปัจจุบันไว้ให้ดี เพราะสถาณการณ์มันคงไม่กระเตื้องขึ้นไปกว่านี้แน่นอน...
....9.เมื่อต้องเปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนองค์กร คุณมักไม่ค่อยได้อยู่ในระดับเดิม...
...จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อต้องเปลี่ยนงาน หรือต้องเริ่มต้นนำผู้คนกลุ่มใหม่...
...ทุกครั้งที่ต้องนำผู้คนที่แตกต่างไป เราต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด...
...เช่น สมมุติว่า เราเคยเป็นข้าราชการระดับสูง เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงในบริษัทเอกชน เมื่อมาทำเครือข่าย เราก็ต้องเริ่มต้นจากตำแหน่ง (position) อยู่ดี เราต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด...
...เราไม่สามารถไปยึดตำแหน่งในองค์กรเดิมมานำในองค์กรใหม่...
...ผมไม่สามารถนำเอาตำแหน่งในอาชีพแพทย์มาเป็นผู้นำในเครือข่ายได้...
...ผมไม่สามารถใช้วิชาผ่าตัด วิชาคลอดลูกในอาชีพแพทย์มาโน้มน้าว(Influence)ทีมงานให้พัฒนาเปลี่ยนแปลงและนำเขาได้...
...ต่อให้ท่านเป็นข้าราชการระดับสูง หรือเป็นผู้บริหารระดับสูงแค่ไหนในบริษัทเอกชน ท่านก็ไม่สามารถเอาตำแหน่งในองค์กรเดิมมาโน้มน้าว(Influence)ทีมงานและนำเขาได้...
...ทุกครั้งที่ต้องนำผู้คนที่แตกต่างไป เราต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด...
...ผู้นำที่ยึดติดกับตำแหน่งมักไม่ยอมเริ่มต้นพัฒนาภาวะผู้นำขึ้นมาใหม่เพราะคนแบบนี้มองว่า ภาวะผู้นำเหมือนเส้นชัย เมื่อไปถึงแล้วก็สิ้นสุดกัน...
...ไม่มองเลยว่าภาวะผู้นำคือกระบวนการที่ต้องทำอยู่อย่างต่อเนื่อง...
...ผู้นำลักษณะนี้อยากเก็บสิ่งที่ตัวเองมีไว้ หวังว่าเมื่อทำตามที่ต้องการแล้วก็จบกัน...
...แต่ทว่าผู้นำที่ดีจะเต็มใจพยายามใหม่อีกครั้ง เพราะรู้ดีว่าบนเส้นทางของภาวะผู้นำนั้น มักจะทำให้เขาต้องเริ่มต้นไต่เต้าจากระดับล่างที่สุดขึ้นมาใหม่แทบจะทุกครั้งไป...
...10.คุณไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปได้เพียงลำพัง..."ถ้าคิดว่าตัวเองเดินนำผู้อื่น แต่กลับไม่มีใครเดินตาม แสดงว่าคุณแค่เดินเล่นเท่านั้นเอง"...การจะเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ คุณต้องช่วยให้คนอื่นตามคุณขึ้นมาในระดับต่างๆ ...
...ถ้าผู้คนไม่ตามคุณขึ้นมาก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้ไต่ขึ้นมาจากระดับที่ 1 ไปสู่ระดับที่ 2 และ 3...
...แต่ถ้าคนตามคุณมาในระดับต่างๆไม่ได้กลายมาเป็นระดับผู้นำ ก็แปลว่าคุณยังไม่ได้ขึ้นมาในระดับที่ 4...
...และถ้าคนที่คุณกำลังพัฒนาไม่ได้อยู่ในระดับที่ 4 คุณก็ยังมาไม่ถึงระดับที่ 5...
...กระบวนการทั้งหลายเหล่านี้ล้วนต้อองอาศัยผู้อื่นและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพวกเขา...
...ซี ดับบลิว เพอรี่ หัวหน้านิกายเควกเกอร์กล่าวไว้ว่า"ภาวะผู้นำคือการยอมรับคนอื่นในแบบที่เขาเป็น แล้วพาพวกเขาก้าวเดินไปที่ไหนสักแห่ง" นี่ล่ะคือหัวใจสำคัญของเรื่องผู้นำ 5 ระดับ...
...ติดตามในตอนที่ 14 ค่ะ...
ขอบคุณบทความดีๆจาก..
นพ.ไมตรี พิชญังกูร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น