วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558
ภาวะผู้นำ ตอนที่ 6
...ภาวะผู้นำ ตอนที่ 6...
...จากดักแด้ สู่ ผีเสื้อของผม จึงเป็นการเลิกจากความเคยชินเก่า ๆ ที่มีความสะดวกสบายในวงการแพทย์ มาสู่วงการที่ตัวเองไม่คุ้นเคย คือ วงการธุรกิจ...
...ผมเต็มใจละทิ้งสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคย ปลอดภัย และมั่นคง ไม่มีข้ออ้างใด ๆ เลย แล้วผลักตัวเองเต็มที่ในการพัฒนาตัวเองสู่ศักยภาพสูงสุดในการเป็นผู้นำ...
...ด้วยเป้าหมายการพัฒนาภาวะผู้นำสู่ระดับ Pinnacle...
...จากดักแด้ สู่ ผีเสื้อของผม จึงเป็นการพัฒนาในมิติของ "ภาวะผู้นำ" จากระดับ Position สู่ "ภาวะผู้นำ" ระดับ Pinnacle...
...ดังที่ได้บรรยายไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558...
...เสียเวลากับการลองผิดลองถูกมาเป็นปี โดยไม่มีอะไรคืบหน้าเลย...
...ในตอนนั้น คำถามที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผม คือ "มีแผนในการพัฒนาตัวเองอย่างไร"...
...เพราะก่อนหน้านั้น เราเชื่อว่า ใครก็ตามที่ทุ่มเทการทำงานอย่างหนัก ก็จะประสบความสำเร็จเอง...
...แต่ในความเป็นจริง คือ หัวใจสำคัญอยู่ที่การพัฒนาตนเองต่างหาก...
...หากเรามุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย เราอาจจะทำเป้าหมายต่าง ๆ ให้ลุล่วงไปได้ แต่วิธีนี้ไม่ได้ประกันในเรื่องของการพัฒนา แต่ถ้ามุ่งเน้นไปที่เรื่องการพัฒนา เราจะได้ทั้งการพัฒนา แถมเป้าหมายก็ลุล่วงอีกด้วย...
...คนส่วนมากร้อนรนในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเอง แต่กลับไม่เต็มใจพัฒนาตัวเอง ด้วยเหตุนี้ จึงคงไม่เป็นอิสระอยู่ต่อไป...
...สิ่งที่คิดต่อไปและมองเห็น คือ ผมมองเห็นจุดที่ตัวเองยืนอยู่กับจุดที่ตัวเองอยากจะไป และเป็นจุดที่ผมต้องไป นี่คือ ช่องว่างแห่งการพัฒนา และผมต้องคิดให้ออกว่า ผมจะลดช่องว่างนี้ลงได้อย่างไร...
...ถ้าหากเรามีความใฝ่ฝัน มีเป้าหมาย หรือความทะเยอทะยาน เราจะต้องพัฒนาตัวเองเพื่อทำเรื่องเหล่านั้นให้สำเร็จ...
...คนส่วนมากมีความเชื่อที่ผิด ๆ ซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางไม่ให้คุณพัฒนาและก้าวไปถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง...
...1.คนส่วนมากคิดเอาเองว่า "ฉันคิดว่าตัวเองจะพัฒนาไปได้โดยอัตโนมัติ"...
...ผมเชือว่า ผู้คนส่วนมากมีความเชื่อในจิตใต้สำนึกไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ว่า การพัฒนาด้านจิตใจ จิตวิญญาณ และอารมณ์ จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติเหมือนกับการพัฒนาทางร่างกาย...
...การใช้ชีวิตไปแบบเรื่อย ๆ ไม่ได้ช่วยให้เราพัฒนาขึ้น เราต้องมีความตั้งใจจะทำเรื่องนี้จริง ๆ...
...2.คนส่วนมากไม่รู้ว่า"จะพัฒนาตัวเองอย่างไร"...
...ไม่ใช่ผมคนเดียวเท่านั้น บรรดาคนที่ผมรู้จัก ไม่เคยมีใครมีแผนพัฒนาตัวเองเลย เพราะคนทั่วไป ไม่รู้ว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร...
...กว่าเราจะเรียนรู้ได้ ต้องเจอกับบทเรียนที่เจ็บปวด แม้ประสบการณ์ที่เลวร้ายจะสอนบทเรียนให้ แต่เราก็ต้องเรียนรู้อย่างเจ็บปวด แล้วจึงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้...
...บางครั้งเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่บางครั้งก็เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง บทเรียนแต่ละครั้งเกิดขึ้นไม่แน่นอนและยาก เพราะฉะนั้น การวางแผนการพัฒนาตัวเองจึงเป็นวิธีที่ดีกว่า...
...จุดเริ่มต้นของการพัฒนา คือ การตัดสินใจที่จะพัฒนาตัวเอง แล้วผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตก็จะตามมา แน่นอน...
...3.คนส่วนมากมีข้ออ้างว่า "นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมะสมกับการเริ่มต้น"...
...ผมขอถามพวกเรานะครับ ดังนี้นะครับ...
...มีนกอยู่ 5 ตัว เกาะอยู่บนกิ่งไม้ มีนก 4 ตัวตัดสินใจบินหนี ถามว่าจะเหลือนกอยู่บนกิ่งไม้กี่ตัว...
...กี่ตัวครับ...
...ผมเคยถามคำถามนี้บ่อย ส่วนมากก็ตอบว่า เหลือ 1 ตัว...
...จริง ๆ แล้ว เหลือ 5 ตัว เพราะการตัดสินใจกับการลงมือทำจริง ๆ มันต่างกัน...
...แค่ตัดสินใจจะทำ แต่ไม่ลงมือทำ ย่อมไม่มีผลใด ๆ เกิดขึ้น...
...โลกนี้จะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สักเพียงใด หากทุกคนได้ทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำ...
...คนส่วนใหญ่ลงมือทำช้ากว่าที่ควร และมักเป็นไปตามกฏที่ว่า "ยิ่งมัวรอคอยจะทำสิ่งที่ควรทำตอนนี้ ก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะไม่มีวันได้ลงมือทำ"...
...ติดตามในตอนที่ 7 ครับ...
ขอบคุณบทความจาก
นพ.ไมตรี พิชญังกูร
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น